ไม่ว่าใครก็ตามที่อยากจะเป็นนักสู้ Mixed martial art จะต้องเจอกับบทเรียนที่ยากลำบากที่สุดในการฝึกซ้อม อีกทั้งนักสู้ที่ดีมักเกิดจากมรสุมชีวิตที่ถาโถมและความผิดหวังนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งหมดนั่นคือเครื่องหล่อหลอมให้เจากลายเป็นยอดนักสู้ที่ไม่มีใครเทียบเทียม ในอเมริกาเป็นสถานที่เต็มไปด้วยโอกาสและการแข่งขันของกีฬาต่อสู้สากลหลายชนิด การจะฟันฝ่าขึ้นมาเป็นอยู่ในอันดับต้น ๆ ของอเมริกาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะด้วยประชากรที่เยอะย่อมต้องมีผู้เข้าแข่งขันเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน ทว่า Demetrious Johnson หรือ เดมิทรีอัส จอห์นสัน เป็นหนึ่งในนักสู้ที่สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในแนวหน้าของอเมริกาในพิกัดฟลายเวท แม้ว่าเขาจะเป็นชาวอเมริกาแต่เขากลับมีชื่อเสียงทางฝั่งเอเชียเสียมากกว่า เนื่องจากรายการที่สร้างชื่อให้แก่เขาคือรายการ ONE Championship รายการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียและชาวเอเชียให้ความนิยมมากที่สุด ทั้งนี้จอห์นสันยังได้รับความนิยมและได้รับการยกย่องให้เป็นกัปตันอเมริกา เนื่องจากหลายครั้งที่เขาชกกับชาวเอเชียและสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเส้นทางอาชีพของเขามาอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว เพราะทีมงานของเขาได้กล่าวเอาไว้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะเขาจะต้องกลายเป็นตำนานนักสู้แห่งอเมริกาให้ได้
เปิดประวัติ เดมิทรีอัส จอห์นสัน (Demetrious Johnson)
Demetrious Johnson หรือ เดมิทรีอัส จอห์นสัน เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 1986 ที่เมืองเคนตักกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา เขานับว่าเป็นน้องใหม่แห่งวงการ MMA ทำให้ไม่มีใครรู้ประวัติที่แท้จริงตั้งแต่ในวัยเด็กของเขา เท่าที่ค้นหาจากแห่งข่าวต่าง ๆ ได้ก็จะทราบเพียงว่าเขานั้นมีใจรักในกีฬาการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ ทุกวันเขามุ่งมั่นฝึกซ้อมเพื่อเป็นนักสู้ที่ดีกว่าคนอื่น ๆ เสมอ เป้าหมายเดียวในชีวิตคือการก้าวขึ้นไปอยู่จุดสูงแห่ง นักมวยMMA ด้วยรูปร่างที่ไม่ใหญ่มากนักของเขา เขาจึงเลือกที่จะชกในรายการ ONE Championship เป็นหลัก เนื่องจากจะได้พบกับคู่ต่อสู้จากฝั่งเอเชียที่มีความชำนาญในการต่อสู้ในท่ายืนมากกว่า นับว่าเป็นความท้าทายที่เขาต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลา ด้วยความที่เป็นนักชกดาวรุ่งแต่สามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นทำให้ UFC มักจะจับเขาเอาไว้เป็นคู่หลักเสมอ แม้ว่าเส้นทางของเขาที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายเพียงไม่นานก็เป็นที่จับตามองแล้ว แต่คุณรู้ไหมว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะเป็นที่รู้จักได้อย่างทุกวันนี้ โดยรางวัลที่เขาได้ครอบครองนั้นได้แก่ อดีตแชมป์ UFC รุ่นฟลายเวท ชนะ 27 แพ้ 3 เสมอ 1 ก่อนที่จะย้ายมาชกในสังกัดของ ONE Championship อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยกระแสที่เป็นที่ฮือฮาของเหล่าแฟนมวยและคู่ต่อสู้ที่จะต้องเผชิญหน้ากับเขา
เทคนิคยอดนักสู้ MMA กับความไวจากปีศาจ
บนโลกใบนี้มีนักสู้หลายคนที่มีร่างกายที่แข่งแกร่งดุจหินผา และมีมันสมองที่ชาญฉลาดพอจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย และนักสู้ส่วนมากล้วนมีร่างกายที่สูงใหญ่เพื่อรับแรงปะทะ แต่สำหรับ Demetrious Johnson ไม่ใช่แบบนั้น แม้ร่างกายจะไม่ได้สูงใหญ่พอจะเทียบกับมวยยักษ์แต่เขามีสิ่งอื่นที่เข้ามาทดแทนคือความไว ดั่งคำกล่าวที่ว่า “ความไวเป็นของปีศาจ” เมื่อการฝึกซ้อมร่างกายที่เข้มข้นผสานเทคนิคการต่อสู้ที่โดดเด่นและความไวที่เป็นเลิศ ทำให้เขากลายเป็นนักสู้ที่ได้รับคำชื่นชมจากเจ้าของรายการ ONE Championship ว่าเป็นหนึ่งในนักสู้ที่ดีที่สุดของเขา เนื่องจากก่อนหน้านี้เราเคยได้เห็นผลงานของเขามาแล้วในศึก UFC ที่ไม่ว่า นักมวยMMA คนไหนก็ต้องยอมสยบให้แก่เขา และมีสถิติการต่อสู้ที่สวยงามเสมอมา เดมิทรีอัส จอห์นสัน เขารู้ดีว่าการมาเยือนในถิ่นเอเชียนั้นจะต้องพบกับนักสู้ประเภทใด โดยฝั่งเอเชียนั้นคือชื่อในการต่อสู้ท่ายืนที่รุนแรงแต่ทว่า เขาเองก็มีเทคนิคการต่อสู้แบบมวยไทยที่ไม่เป็นรองใครเช่นกัน ทั้งการป้องกันหมัดและทำลายจังหวะคู่ต่อสู้ราวกับถอดแบบมวยไทยมาอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้ในท่านอนก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาแม้แต่น้อย เพราะไม่ว่าคุณจะทุมกำลังที่มีเท่าไหร่ก็ไม่ดีพอจะกดให้เขาอยู่ด้านล่างได้ ด้วยเทคนิคที่ดีของเขาเขามักจะพลิกขึ้นมาอยู่ด้านบนได้เสมอ ทั้งนี้ยังมีศอกที่เป็นอาวุธลับ แม้จะไม่ได้ออกมาแผงฤทธิ์บ่อยนัก แต่เมื่อคราวใดที่ได้ใช้มักจะเห็นผลเสมอ และอีกอาวุธหลักคือการชกที่รวดเร็วรุนแรงดั่งมวยสากล ทำให้คู่ต่อสู้ที่คิดจะยืนระยะต้องคิดหนัก เพราะไม่ว่าจะเข้าทำด้วยวิธีใดก็มักจะต้องเจอกับอุปสรรคเสมอ ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงสามารถก้าวขึ้นมาเป็นนัก MMA ระดับแนวหน้าภายในระยะเวลาอันสั้น ทั้งนี้เราคนไทยก็ได้แต่หวังว่าจะมีนักชกจากไทยที่ดีพอจะเทียบรัศมีกับเขา เพื่อจะได้ตัดสินว่าใครคือมวยที่ดีกว่าในท่ายืน และที่สำคัญมาร่วมลุ้นร่วมเป็นกำลังใจให้แก่เขาเพื่อก้าวไปสู้จุดสูงสุดและกลายเป็นตำนานที่น่าจดจำแห่งวงการมวย เพื่อประกาศให้ทั่วโลกได้รู้ว่า ONE Championship คือรายการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย และดีพอที่นักสู้จาก UFC จะขอเขาร่วมการแข่งขัน
