นักมวยไทยเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน สิ่งหนึ่งที่ทำให้ศิลปะการต่อสู้ประเภทนี้ยังคงอยู่และได้รับความนิยม นั่นก็คือการจัดการแข่งขันที่ต่อเนื่อง และเงินรางวัลที่มหาศาล ทำให้นักมวยเก่ง ๆ มากมายต่างมีเป้าหมายที่จะขึ้นมาอยู่ในแนวของเมืองไทยเพื่อเงินรางวัลที่คุ้มค่าและชื่อเสียงที่จะตามมา ปัจจุบันกีฬามวยไทยได้มีการปรับเปลี่ยนกฎกติกาใหม่ ๆ เพื่อให้ทันสมัยและเป็นสากลมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพื่อป้องกันอันตรายที่ตามมาอีกด้วย เช่น การเปลี่ยนจากคาดเชือกมาใช้นวม เพื่อให้กีฬาชนิดนี้เป็นสากลมากขึ้นและเพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่รุนแรง และกฎนี้ก็ถือว่ากฎกติกาในยุคแรก ๆ ที่มวยได้มีการปรับเปลี่ยนจนกระทั่งครั้งล่าสุดเมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาได้มีการประกาศให้ไม่มีการไถคู่ต่อสู้ คือ การรับตัวข้างลำตัวและดันไถคู่ต่อสู้ไปทั่วพื้นเวที เป็นเหตุให้ “นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ” กับฉายา “จอมไถนา” ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการชกใหม่
ประวัตินักมวยไทย นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ
นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ ชื่อจริงคือ คำเพียว ศรีจันทึก เกิดเมื่อปี 2516 จังหวัดบุรีรัมย์ ตลอดการชกในอาชีพของเขาทั้งหมด 283 ครั้ง สามารถเก็บชัยชนะได้ถึง 266 ครั้ง แพ้เพียง 15 ครั้ง และเสมอ 2 ครั้ง นำขบวนมีพี่ชายชื่อ นำพล ผู้ที่เป็นนักมวยคนแรกของตระกูลก่อนที่นำขบวนจะซึมซับกีฬาประเภทนี้ ในช่วงเริ่มแรกของการชกมวยเขาแทบไม่มีความเป็นมวยใด ๆ เลย อีกทั้งยังเคยแพ้น็อกด้วยสถิติที่เร็วที่สุดคือ 33 วินาที ให้แก่ วังจั่นน้อย ส.พลังชัย จนกระทั่งปี 2534 ที่เป็นจุดหักเหของชีวิตอีกครั้งเมื่อพี่ชาย นำพล ได้รับอุบัติติเหตุอย่างหนักทำให้ต้องแขวนนวมก่อนวัยอันควร นำขบวนผู้เป็นน้องชายจึงเกิดแรงกระตุนให้พัฒนาฝีมือของตัวเองมากยิ่งขึ้น โดยการซ้อมที่หนักขึ้นจนเขาสามารถต่อกรกับคู่ต่อสู้ได้อย่างดีเยี่ยมจนกระทั่งสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้าของนักมวยไทย ด้วยสไตล์การชกที่สวยงาม นิ่งสงบ เป็นการหยั่งเชิงคู่ต่อสู้และอาศัยวิธีการแก้เกมในแต่ละยก นับว่านำขบวนเป็นมวยสมองที่ไม่ธรรมดาในยุคนั้นจนกลายเป็นเจ้าประจำในศึกมวยคู่เอกที่ชกชิงเงินแสน และด้วยท่าไม้ตายประจำตัวของเขาก็คือ ไถนา จนเป็นที่มาของฉายา “จอมไถนา” เป็นเทคนิคการสู้ที่ตัดกำลังคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี แต่ต่อมาเทคนิคนี้ก็ได้ถูกห้ามไม่ให้สามารถใช้ได้อีกต่อไป แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจหยุดยั้งความสามารถของเขาได้ เพราะนอกจากการไถนาแล้ว นำขบวนยังเป็นมวยเข่าที่ร้ายกาจอีกคนหนึ่งรวมถึงการชิงเหลี่ยมที่ไม่เป็นรองใคร ทำให้คู่ต่อสู้เกิดความยากลำบากทุกครั้งเมื่อเข้าคลุกวงใน
นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ นักมวยไทยในตำนานที่ได้รับการกล่าวถึง
หากจะย้อนความในอดีต นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ ก็คือหนึ่งในนักมวยไทยที่มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหนึ่งในตัวอย่างให้แก่นักมวยรุ่นใหม่ได้เรียนรู้อยู่เสมอ หากไม่นับถ่วงท่าไถนา ก็จะมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆที่นำขบวนมักจะใช้อยู่เสมอคือ การไล่แขน ที่ไม่ยอมให้คู่ต่อสู้ไล่แขนล็อกคอได้ได้เลย นักมวยที่หวังคลุกวงในก็ไม่อาจจะทำอันตรายแก่เขาได้เพราะเขาเป็นผู้คุมเกม หัก ทุ่ม แม้การไถนาที่เป็นอาวุธหลักจะถูกสั่งห้ามแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสามารถของเขาลดลง เมื่อการหักและทุ่มคู่ต่อสู้ด้วยการพลิกหลอกเพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งคู่ต่อสู้ลงไปกองกับพื้นได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้ คนรุ่นใหม่จึงยกให้ นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ เป็นหนึ่งในตำนานมวยที่หลายคนชื่นชอบเสมอ แม้ว่าจะไม่ใช่มวยที่เน้นไปทางความหนักหน่วงแข็งแกร่ง และเขายังสามารถสร้างประวัติศาสตร์ไว้ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยการเป็นแชมป์ในรุ่นจูเนียร์ไลท์เวท ถึง 6 ปีซ้อน และไม่มีนักชกคนใดสามารถเอาชนะเขาได้จนต้องสละตำแหน่งเอง และในการแข่งขันรายการนี้นำขบวนได้ฝากท่าแม้ไม่มวยไทยที่สุดงามและหาชมยากที่สุดไว้ให้แฟนมวยได้เห็นกันคือ ท่ามณโฑนั่งแท่น