ความเป็นมาของมวยสากล และบิดามวยสากล

ความเป็นมาของมวยสากล และบิดามวยสากล

     ในอดีต โลกยังคงเผชิญกับสภาวะสงครามอย่างต่อเนื่อง ทหารในยุคนั้น นอกจากจะใช้ดาบเป็นอาวุธที่สำคัญแล้ว ในการต่อสู้ไม่ว่าอะไรก็ตามที่อยู่รอบตัว จะต้องเอามาใช้ในการทำร้ายคู่ต่อสู้ได้ทั้งสิ้น แต่หากตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถหาเครื่องทุ่นแรงได้ ก็ยังมีมือเปล่าทั้งสองข้าง ที่ยังเหลืออยู่ให้พอเข้าทำร้ายกันได้ ต่อมา เมื่อความพยายามที่จะต้องการให้สงครามสิ้นสุดลง แต่ทว่าความกระหายในสงครามของมนุษย์นั้นกลับไม่ได้ลดทอนลงมาเลย คนในยุคนั้นจึงพยายามที่จะหาวิธีการอื่นมาทดแทนการทำสงครามจริง นั่นก็คือการแข่งขันกีฬา และเป็นต้นกำเนิดของ โอลิมปิค

     ทุกสิ่งอย่างที่เคยเกิดขึ้นในสนามรบก็เปลี่ยนมาเป็นสนามกีฬาทั้งสิ้น เช่น ฟันดาบ ขี่ม้า วิ่งแข่ง ต่อสู้ เป็นต้น วิธีการนี้เป็นการช่วงทำให้มนุษย์ลดทอนความบ้าคลั่งได้เป็นอย่างดี และกีฬามวยสากลก็เริ่มขึ้นนับแต่นั้นมา

     แน่นอนว่าในทุกวงการย่อมต้องมีผู้ที่บุกเบิก ริเริ่ม และกลายเป็นผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดค้นแรก จนได้รับการยกย่องให้เป็นอัจฉริยะในด้านนั้น ๆ รวมถึงมวยสากลด้วยก็เช่นกัน ที่ บิดามวยสากล ที่สามารถเป็นได้ทั้งนักชก และนักคิด นักชกที่ประสบความสำเร็จจนอยู่ในจุดสูงเป็นคนแรก หรือนักคิดที่คิดหาวิธีการและการจัดการจนได้รับการยอมรับ ทั้งสองคนนี้ต่างก็เหมาะสมที่จะได้รับการยกย่องด้วยกันทั้งสิ้น

ความเป็นมาของมวยสากล และ บิดามวยสากล

เจมส์ ฟิกก์ บิดามวยสากล

     ไม่ว่าจะเป็นในวงการใดก็แล้วแต่ การบุเบิกที่ยากลำบากย่อมต้องเป็นที่จดจำของคนรุ่นหลัง โดยเฉพาะการเป็นไปเพื่อการพัฒนาซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ได้ใส่ใจ แต่หากเมื่อประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับ นั้นย่อมทำให้เขาเหล่านั้นได้รับการเชิดชูอย่างสมเกียรติ ดั่ง เจมส์ ฟิกก์ ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดามวยสากล และเป็นแชมป์มวยสากลคนแรกของโลก โดยการแต่งตั้งขึ้นมาเอง แต่นั้นก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับวิธีการที่เข้าได้เขาไปหาตำแหน่งนั้น หรือสิ่งที่เขาทุ่มเททำมาทั้งหมดของชีวิต

     เจมส์ ฟิกก์ เป็นชายชาวอังกฤษ ที่มีความรักในกีฬาการต่อสู้เป็นอย่างมาก เขามุ่งมั่นที่จะเรียนรู้และฝึกฝนการต่อสู้ตั้งแต่เด็ก ก่อนที่จะพบว่าการต่อสู้แบบนั้น มันช่างไม่มีอะไรที่น่าสนใจ และเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง แต่ทว่า ด้วยสภาพสังคมที่ไม่เอื้ออำนวย บวกกับวัยและประสบการณ์ในการต่อสู้ที่ไม่มากพอของเขา มันจะทำให้คำพูดของเขาไม่มีน้ำหนักที่เพียงพอ ต่อมา เขาจึงได้ประกาศว่า เขาคนชาวอังกฤษที่เก่งกาจในการชกมวยเป็นอย่างมาก หากใครที่คิดว่าดีพอที่จะล้มเขาได้ก็ให้เข้ามาทำการปะลอง โดยมีเงินรางวัลเป็นเดิมพัน และหลังจากนั้น เจมส์ ฟิกก์ ก็กลายเป็นผู้ที่ถูกบันทึกให้อยู่ในประวัตินักมวยสากลที่คู่ควรแก่การค้นหา เพราะว่าในทุกการแข่งขัน ไม่เคยมีใครสามารถเอาชนะเขาได้เลย โดยกติกาในการชกก็แทบไม่ต่างจากปัจจุบัน คือ หากชกต่ำกว่าเข็มขัด ห้ามกัด ห้ามซ้ำขณะล้มลง แต่นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับและเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงนั่นก็คือ เขาได้นำเอาวิธีการใหม่ ๆ เช่น การโยกหลบ การฟุตเวิร์ค และหมัดแย็บ เป็นต้น ด้วยเทคนิคการต่อสู้เหล่านั้น เป็นเทคนิคที่ใหม่มากในยุคนั้น ทำให้คู่ต่อสู้ไม่แม้แต่จะได้สัมผัสใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่มาเขาจึงได้เปิดขายใบสำหรับผู้ที่ต้องการชมเขาชก และก่อตั้งค่ายมวยเป็นที่แรกของโลกขึ้น และนอกจากนี้เขายังคือคนที่สร้างเวทีมวยขึ้นมาเป็นเวทีแรกของโลกอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เขาได้รับการยกย่องอย่างสูงสุด

     เป็นเวลากว่าหลายร้อยปีที่อิทธิพลนั้นจะแพร่ขยายมายังประเทศไทย จนเกิดเป็นมวยสากลในไทยในปัจจุบันนี้

มวยสากลกับอิทธิพลต่อเอเชีย

     หลังจากที่บิดามวยสากลได้ลาโลกไป แต่กระบวนการต่าง ๆ ของเขายังคงอยู่เป็นแนวทางให้คนรุ่นหลังต่อมา และต่อมาความนิยมในมวยสากลของเขาได้เริ่มแพร่ขยายมาทางเอเชีย ในชาติแรกที่ได้รับอิทธิพลนี้ก็คือฟิลิปปินส์ ก่อนที่จะขยายวงการจนไทยเองก็ได้รับอิทธิพลนี้ด้วย ก่อกำเนิดเป็นมวยสากลในไทย ทั้งแต่ปี 2455 จนได้รับความนิยมและพัฒนาเริ่มมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีนักมวยสากลไทยหลายคนที่ได้ถูกบันทึกไว้เป็นเกียรติประวัตินักมวยสากลในยุคแรกที่สามารถประสบความสำเร็จต่อวงการมวยสากลของไทย