ประวัติมวยสากลสมัครเล่น จากสงครามสู่สนามมวย

ประวัติมวยสากลสมัครเล่น จากสงครามสู่สนามมวย

ประวัติมวยสากลสมัครเล่น จากสงครามสู่สนามมวย

     หลายท่านอาจจะสงสัยคำว่ามวยสากลสมัครเล่น กับมวยสากลอาชีพนั้นมีความเป็นมาที่แตกต่างกันอย่างไร เพราะว่าชื่อนั้นดูคล้ายคลึงกัน อีกทั้งการชกและกติกานั้นก็ยังแทบจะไม่ได้แตกต่างกันอีกด้วย แต่ทว่า เราก็ยังสามารถแบ่งแยกความต่างออกมาได้ ดังนี้ มวยสากลสมัครเล่น เป็นการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุกในชนิดกีฬานี้ก็จะเป็นรายการการแข่งขันใหญ่ละดับโลก ที่จะถูกจัดขึ้นในทุก 4 ปี ได้แก่ มหกรรมกีฬาโอลิมปิก ซึ่งการแข่งขันจะเป็นการคัดเลือกตัวแทนของแต่ละประเทศเพื่อเข้าทำการแข่งขันในชนิดกีฬาต่าง ๆ ในมวยสากลสมัครเล่นก็เช่นกัน จะเป็นการเลือกตัวแทนที่ถูกส่งเข้าทำการแข่งขัน โดยแบ่งออกเป็นรอบตัดเชือก โดยไม่ไปนัดล้างตา เป็นเพียงการต่อสู้ที่ต้องชนะเท่านั้น จึงจะได้เข้ารอบต่อไป ชนสามารถเข้าชิงได้ กติกาการแข่งขัน เป็นเหมือนกันมวยสากลอาชีพ แต่ทว่า จะชกในจำนวนยกที่น้อยกว่า 3 ยก ยกละ 3 นาที และนักกีฬาต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวตามที่กำหนด มวยสากลอาชีพ การแข่งขันในระดับมวยสากลอาชีพนั้น จะมีจำนวนยกที่มากถึง 12 ยก ยกละ 3 นาที จึงเป็นความต่างที่ห่างจากมวยสากลสมัครเล่นอยู่หลายขุม ต้องอาศัยพละกำลังและการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงยิ่งกว่า อีกทั้งยังถูกแบ่งออกเป็นหลายรุ่นตามแต่น้ำหนักตัว การชกในละดับมวยสากลอาชีพจึงมาการแข่งขันที่หลากหลายกว่านั่นเอง ในประวัติศาสตร์มวยสากลสมัครเล่นนั้น มีความเป็นมาเช่นเดียวกับมวยสากลอาชีพ เพียงแต่ถูกแบ่งออกตามประเภทการแข่งขันในรายการต่าง ๆ เท่านั้น

ประวัติมวยสากลสมัครเล่น จากมวยข้างถนนสู่เวทีผืนผ้าใบ

     เจมส์ ฟิกก์ คือผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดามวยสากลสมัยใหม่ และเป็นผู้เดียวในประวัติมวยสากลสมัครเล่นได้กล่าวยกย่องว่ามีความสำคัญ และมีคุณูปการมากมาย โดยในสมัยนั้นเขาได้เปลี่ยนแปลงวงการมวยสากลไปอย่างสิ้นเชิง จากมวยที่เป็นการอาศัยหมัดทั้งสองข้างมุ้งเข้าทำร้ายฝ่ายตรงข้าม แต่เขาสามารถใช้เทคนิคการหลบหลีก และเป็นเรื่องที่คนในยุคนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นผู้ที่คิดค้นการสร้างเวทีแข่งขันมวย ที่ได้รับความนิยมและถูกพัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ เจมส์ ฟิกก์ ยังได้ทำให้ความหมายของการต่อสู้นั่นเปลี่ยนไป เป็นมวยสากล คือ การต่อสู้ที่เป็นมากกว่าการใช้กำลัง แต่การใช้เพียงสันหมัดทั้งสอง ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นมวยที่ได้จำเป็นต้องคิดอะไร และไม่มีอะไรที่ซับซ้อน เพราะเขาได้สร้างความแตกต่างให้ผู้คนได้เห็นอย่างแจ่มแจ้ง และเทคนิคของเขาก็ได้รับความนิยมจวบจนถึงปัจจุบัน ต่อมา หลังจากที่เขาได้เสียชีวิตลง แต่ทว่า วิชาความรู้ของเขา กลับยังคงได้รับการสืบต่อ และแผ่ขยายอิทธิพลออกไปเป็นวงการ และประเทศไทยเองก็คือหนึ่งในประเทศที่ได้รับอิทธิพลนี้อย่างยาวนาน จนการเป็นประวัติสาสตร์มวยสากลในไทย

ประวัติมวยสากลสมัครเล่น จากสงครามสู่สนามมวย

ประวัติสาสตร์มวยสากลในไทย

     นับตั้งแต่วินาทีแรกที่มวยสากลที่ได้เข้ามายังพื้นเป็นดินไทย ผู้ยังไม่รู้จักว่า มวยสากล คือ อะไร ในยุคแรกจึงได้รับการขานชื่อว่า มวยฝรั่ง ซึ่งในประวัติศาสตร์มวยสากลในไทยได้มีการบันทึกหลายอย่าง ทั้งวัฒนธรรมเดิมที่ไทยมีมวยไทยที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว ทำให้วงการมวยสากลเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ยากยิ่งในประเทศนี้ อีกทั้งยังได้มีการประลองระหว่างมวยสากลและมวยไทยอยู่หลายหน แต่ผลที่ออกมาก็คือมักจะเป็นมวยไทยที่ได้เปรียบ เพราะว่ามีการใช้อาวุธอื่น ๆ ร่วมด้วย ทำให้จำเป็นที่จะต้องจำกัดการออกอาวุธของมวยไทย คนไทยจึงเกิดความไม่พอใจ ต่อมาจึงได้มีการแก้ปัญหาโดยก่อตั้งกีฬาใหม่เรียกว่า คิกบ็อกซิ่ง มวยสากลสมัครเล่น ได้เริ่มก่อตั้งจากการที่นำเอาเด็กหรือเยาวชนมาเพื่อลงทำการแข่งขันโดยมีเครื่องป้องกัน และชกในจำนวนยกที่น้อยกว่า และในกีฬาโอลิมปิกก็มักจะเป็นสะพานสู่เส้นทางการชกมวยสากลอาชีพ มีนักมวยหลายคนที่เติบโตมาจากมหกรรมกีฬานี้ แต่ทว่าสำหรับนักชกมวยสากลสมัครเล่นของไทย กลับมีน้อยคนนักที่จะเลือกไปต่อกับการเป็นนักมวยสากลอาชีพ อาจเพราะด้วยการซ้อมที่แตกต่าง จึงทำให้การปรับตัวเป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่งขึ้น