มวยสากลอาชีพ แตกต่างแค่ไหนจากมวยสากสมัครเล่น

มวยสากลอาชีพ แตกต่างแค่ไหนจากมวยสากสมัครเล่น

     ไม่มีมนุษย์คนใดที่เกิดมาพร้อมกับความสามารถที่มากล้น และพร้อมที่จะต้องยอดในทันที แต่ทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมกับความไม่รู้ จึงต้องพยายามออกค้นหาด้วยตนเอง เมื่อเจอหนทางที่ชอบแล้ว จึงจะเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อเข้าสู้วงการนั้น โดยมีชื่อเรื่องจากรุ่นพี่ว่ามือใหม่ เช่นเดียวกันกับมวยสากลอาชีพ ที่ไม่ใช้ว่าจะสามารถขึ้นชกได้เลยในทันที แต่จะต้องมาจากผู้ที่ผ่านการฝึกมาอย่างดี เจนจัดในประสบการณ์ ในหลายรายก็เริ่มต้นมาจากการเป็นนักมวยสากลสมัครเล่น

ซึ่งความแตกต่างระหว่างทั้งสองประเภทนี้ก็มีให้เห็นอยู่บ้าง ได้แก่

  1. จำนวนยกในการแข่งขัน ที่มวยสากลสมัครเล่นมีเพียง 3 ยกเท่านั้น ในขณะที่นักมวยอาชีพมีถึง 12 ยก
  2. การฝึกซ้อมที่แตกต่างกัน ในนักชกอาชีพจะมีการฝึกซ้อมที่มากกว่าและดุเดือดยิ่งกว่า นั่นก็เพราะว่าในการแข่งขันนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องยืนระยะให้ได้ถึง 12 ยก และในระหว่างการแข่งขันจำเป็นที่จะต้องการเกมอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งต้องฝึกร่างกายมาเพื่อให้รับแรงปะทะที่มหาศาลตลอดทั้งการแข่งขัน แต่ตรงกันข้ามกับมวยสากลสมัครเล่น ที่ใช้เพียงฝีมือที่ไม่ได้เน้นความหนักหน่วง เพราะอาศัยการเข้าทำอย่างรวดเร็วเพื่อเอาคะแนน เพราะในการชกที่มีโอกาสเพียง 3 ยก นักชกไม่มีทางที่จะชนะน็อกได้ในระยะเวลาเพียงเท่านี้ เนื่องจากเรี่ยวแรงของทั้งสองที่ยังดีจึงไม่จำเป็นที่จะต้องฝึกซ้อมเพื่อรับแรงปะทะ

     ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้การแข่งขันของกีฬาชนิดเดียวกันทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันอยู่มาก โดยในกลุ่มนักชกมืออาชีพ มักจะปรามาศว่ากลุ่มนักชกจากมวยสมัครเล่นนั้นมีหมัดที่เบาดั่งขนนก นั่นก็เพราะการซ้อมและเทคนิคการทำคะแนนที่แตกต่างกันต่างหาก และในประเภทของมวยสมัครเล่นนั้น เป็นเพียงการคัดเลือกนักกีฬาที่ดีที่สุดของแต่ละประเทศเพื่อเป็นตัวแทนในการแข่งขัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสมาพันธ์มวยโลก จึงไม่ได้มีแบ่งรุ่นการชก แต่เป็นการชกเพื่อคัดเลือกเข้าไปในแต่ละรอบโดยการชกตัดเชือก

มวยสากลอาชีพ มีทั้งหมดกี่รุ่น

     ในระดับมวยสากลอาชีพ จะมีการแบ่งการชกเป็นรุ่นต่าง ๆ เพื่อวัดระดับฝีมือในการแข่งขันเพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียบเปรียบที่มากนักในเรื่องของน้ำหนัก เพราะในบางครั้ง นักมวยที่มีน้ำหนักตัวเยอะกว่าย่อมได้เปรีบในการต่อสู้อย่างเห็นได้ชัด จึงต้องจัดให้มีรุ่นการแข่งขันดังนี้

  1. เฮฟวี่เวท น้ำหนักตั้งแต่ 90 กก.ขึ้นไป ในศึก WBA WBC IBF WBO BoxRec
  2. ครุยเซอร์เวท น้ำหนักไม่เกิน 90 กก. ในศึก WBA WBC IBF BoxRec
  3. ซุปเปอร์ มิดเดิลเวท น้ำหนักไม่เกิน 76.2 กก. ในศึก WBA WBC IBF WBO BoxRec
  4. ซุปเปอร์ เวลเธอร์เวท น้ำหนักไม่เกิน 69.9 กก. ในศึก WBA WBC

     โดยทั้งหมดนี่คือรุ่นตัวอย่างมวยสากลที่ได้รับความนิยมเป็นที่สุดในการแข่งขัน แต่นอกจากนี้แล้วยังมีเพียงรุ่นตามน้ำหนักต่าง ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะนักชกมวยสากลไทย มักนิยมชกในรุ่นพิกัดซุปเปอร์ มิดเดิลเวทน้ำหนักไม่เกิน 76.2 กก. เพราะด้วยรูปร่างที่จำกัด การชกในรุ่นนี้ จึงถือว่าเป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุดของไทยแล้ว นอกจากนี้โปรแกรมการชกในแต่ละรุ่นยังมีมาให้เห็นในแต่ละปี โดยสามารถติดตามได้จากข่าวสารมวยโลกเกี่ยวกับตารางการแข่งขัน

มวยสากลไทย สามารถชกรุ่นใหญ่ได้หรือไม่

     หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไม่นักชกมวยสากลอาชีพของไทย ถึงไม่มีใครเก่งกล้าพอที่จะไปชกในรุ่นที่เป็นที่นิยมในยุโรปและอเมริกา แต่คุณรู้หรือไม่ว่านักมวยสากลไทยนั้นมีคนเก่งอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าที่ไม่สามารถขึ้นไปชกในรุ่นนั้นๆ ได้ก็เพราะว่าสมาพันธ์มวยโลกได้มีการกำหนดรุ่นตามน้ำหลักเอาไว้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการต่อสู้ที่ได้เปรียบเสียเปรียบไปมากกว่ากัน ทำให้นักชกไทยสามารถชกเพื่อชิงแชมป์ได้ตามน้ำหนักของตน เพราะการจะเร่งทำน้ำหนักเพื่อข้ามไปอีกรุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องฝืนธรรมชาติของโครงสร้างร่างกายมนุษย์ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี

     และไม่ว่าจะเป็นการชกในรุ่นใดก็ตามล้วนแล้วแต่มีความสำคัญและมีเกียรติแห่งแชมป์เท่าเทียมกันทั้งสิ้น ทั้งนี้ในวงการข่าวสารมวยโลก ยังให้ความสำคัญกับนักชกไทยเป้นอย่างมาก เนื่องจากมีนักมวยสากลของไทยไม่น้อย ที่สามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นในเวทีต่าง ๆ อย่างมากมาย