สามเอ ไก่ย่างห้าดาว นักชกมากประสบการณ์ในตำนาน

สามเอ ไก่ย่างห้าดาว นักชกรุ่นใหญ่ผู้มาพร้อมกับฉายา ซ้ายไฟลามทุ่ง ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก

สามเอ ไก่ย่างห้าดาว

สามเอ ไก่ย่างห้าดาวหรือ เอ วัชริศ จวบรัมย์ ปัจจุบันมีอายุ 39 ปี เขาเป็นนักชกจากจังหวัดบุรีรัมย์ที่มีฐานะยากจน แน่นอนว่าชีวิตต่างจังหวัดนั้นหาเงินค่อนข้างยาก พ่อและแม่ของสามเอจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูเขา ส่วนสามเอก็พยายามทำหลายทางเพื่อหาเงินมาเยียวยาให้กับครอบครัวเช่นกัน ในคืนหนึ่งช่วงที่เขาอายุ 9 ขวบ เขาเห็นการประกาศหา นักมวยเด็ก มาจัดการแข่งขัน ซึ่งสามเอเห็นว่าเด็กรุ่นเดียวกับเขามีน้ำหนักพอ ๆ กัน เขาจึงลองเสนอตัวไปแข่งและกลับไปขอพ่อและแม่ แม้จะไม่ได้รับการอนุญาตแต่สามเอก็ร้องงอแงลงไปดื้นกับพื้นจนพ่อและแม่ยอมให้เขาไปขึ้นชก แม้ต้องหลับตาชกเพราะไม่เคยซ้อมมวยเลย แต่เขาก็สามารถเอาชนะและได้รับเงิน 100 บาทมาเป็นค่าตัว 

สามเอ ไก่ย่างห้าดาว ใช้ความพ่ายแพ้เพื่อผลักดันให้ไปไกลยิ่งขึ้น

สามเอ ไก่ย่างห้าดาว

สามเอ ไก่ย่างห้าดาวได้รับการฝึกฝนและเริ่มเดินสายชกอย่างจริงจัง ซึ่งพ่อและแม่ก็เห็นแววและให้เขาไปเรียนมวยอย่างจริงจัง จนทำให้สามเอมีสถิติการชกจำนวนมากถึง 100 ไฟต์ภายในเวลาไม่กี่ปีเท่านั้น เมื่อเขาอายุได้ 17 ปีก็ได้รับโอกาสไปขึ้นชิงแชมป์รุ่น 105 แต่ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ ตอนนั้นเขาเริ่มตัดพ้อว่าชีวิตนี้คงไม่น่าได้แชมป์อีกแล้ว จนมาได้แชมป์ตอนอายุ 21 ปีจากสนามมวยมาตรฐานของประเทศไทย ซึ่งกว่าจะได้มาก็ยากลำบากแล้ว แต่การรักษาแชมป์นั้นยากยิ่งกว่า เพียงเวลาไม่นานนักเขาก็เสียแชมป์ไปได้ง่าย ๆ กลายเป็นช่วงเวลาที่เขาตัดสินใจละทิ้งเส้นทางมวยไป แต่ก็กลับมาอีกครั้งในปี 2551 ในการมาอยู่ค่าย เพชรยินดีอะคาเดมี และเริ่มใช้ชื่อ ไก่ย่างห้าดาว มาตั้งแต่นั้นมา

สามเอ ไก่ย่างห้าดาวกับบทบาทในวงการมวยระดับโลก

สามเอ ไก่ย่างห้าดาวปัจจุบันเป็นนักชกในตำนานจากสนามมวยลุมพินีและยังคงฟอร์มการชกที่ดุดันมาโดยตลอดไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้เขายังเคยไปเป็นเทรนเนอร์ที่ Evolve MMA ยิมขนาดใหญ่ระดับโลกจากประเทศสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักของวงการมวยทั้งในไทยและต่างประเทศทั่วโลก และสามเอยังได้ขึ้นชกบนเวทีของ ONE Championship อีกด้วย แม้ว่าตอนนี้จะอายุค่อนข้างมากในฐานะของนักมวย แต่เขาก็ยังคงมีบทบาทในวงการมวยอยู่อย่างสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลง

เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม นักมวยเด็กจากหนองกี่สู่เวทีโลก

เจนนิเฟอร์ เจนิสกา นำทีมชาติเยอรมนีจบอันดับที่ 14 ของตาราง