Conor McGregor คนทรามผู้ยิ่งใหญ่

Conor McGregor คนทรามผู้ยิ่งใหญ่

     สำหรับวงการมวย Mixed martial art เราต่างรู้ดีว่านักสู้แต่ละคนล้วนแต่มีสัญชาติญาณของสัตว์ป่า พวกเขามักไม่ให้เกียรติคู่ต่อสู้และมักแสดงออกด้วยสีหน้าท่าทางอย่างบ้าคลั่ง คอเนอร์ แมคเกรเกอร์ ก็คือหนึ่งในนักสู้ที่ถูกขนานนามว่าต่ำทรามที่สุด แม้ว่าเขาจะถูกมองว่าเป็นคนไม่มีมารยาทและด้วยความสามารถและทักษะการต่อสู้ที่เขามีทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และนิสัยที่อวดเก่งเกินตัวของเขาในหลายครั้งก็ทำให้แฟนมวยต้องแปลกใจในสิ่งที่เขาทำ แต่ในบางครั้งเขาก็ต้องยอมรับผลกรรมที่เกิดจากความปากดีของเขาเอง Conor McGregor เป็นชายเลือดไอซ์แลนด์ที่สร้างตัวเองให้ยิ่งใหญ่จากกองขยะสู้ยอดนักสู้แห่งวงการ ด้วยชีวิตที่ไม่สวยหรูหล่อหลอมให้เขากลายเป็นคนที่ก้าวร้าวทุกครั้งเมื่อประจันหน้ากับคู่ต่อสู้ เมื่อเขาลงจากเวทีเพื่อพบปะแฟนคลับเขามักเป็นมิตรด้วยเสมอ แสดงให้เห็นว่านั่นเป็นเพียงหนึ่งในวิธีการเรียกร้องความสนใจเพื่อเกมการแข่งขันสนุกมากขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ชายผู้บ้าคลั่งคนนี้ได้แสดงให้เราถึงความกล้าในหลาย ๆ ครั้ง เป็นความบ้าบิ่นที่เราไม่คิดว่าจะมีนักสู้คนไหนกล้าทำ แม้กระทั่งประกาศท้าทายยอดมวยสากลอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนี่ยร์ ซึ่งบทสรุปก็ออกมาไม่ดีนักเมื่อฝีมือกับฝีปากไปกันคนละทาง

Conor McGregor คนทรามผู้ยิ่งใหญ่

Conor McGregor จากคนบ้าสู่ผู้ยิ่งใหญ่

     Conor McGregor มีชื่อเต็มว่า คอเนอร์ แอนโธนี แมคเกรเกอร์ เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1988 ที่เมือง Crumlin รัฐ Dudlin ประเทศ Ireland ส่วนสูง 175 เซนติเมตร น้ำหนัก 70 กิโลกรัม ในวัยเด็กเขามีชีวิตที่ยากลำบากในครอบครัวที่พอได้กินได้ใช้ เขาใช้ชีวิตจนเติบใหญ่เป็นวัยรุ่นประกอบอาชีพช่างประปา จนกระทั่งวันหนึ่งเหมือนทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป ในใจเขาเริ่มมองหาความท้าทายใหม่ ๆ ด้วยร่างกายที่แข็งแรงและความชอบในกีฬาการต่อสู้ทำให้เขาล่าออกจากงานประจำมาเป็น นักมวยMMA อย่างเต็มตัว โดยก้าวแรกที่เขาเริ่มเสี่ยงคือวันที่ครอบครัวยังไม่มีแม้แต่ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ต้องอาศัยห้องเช่าเล็ก ๆ นอนกับแม่และแฟนสาว การออกเดินทางครั้งใหม่ของเขามีชีวิตถึง 2 ชีวิตเป็นเดิมพัน ทำให้เขาใส่สุดทุกอย่างที่มีในชีวิตเพื่อคว้าความสำเร็จนี้เอาไว้ คอเนอร์ แมคเกรเกอร์ เริ่มต้นการชกในสังเวียน Cage Warriors 2008 เป็นการต่อสู้ในกรงที่ไม่โด่งดังนัก เขารู้ดีว่าหากสามารถเป็นแชมป์ 2 สมัยในศึกนี้ได้ UFC จะได้เห็นเขา เขาจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อฝึกฝนตัวเองให้แข่งขันจนกระทั่งความฝันที่รอคอยก็มาถึง ในปี 2013 เขาได้รับคำเชิญตามคาด ในศึกแรกของ MMA 194 เขาจะต้องพบกับแชมป์ในรุ่น เฟเธอร์เวต โจเซ อัลโด นักสู้ผู้ไม่เคยแพ้ใครมากว่า 10 ปี แต่น้ำหนักของเขามากเกินไปเขาจึงพยายามรีดน้ำหนักลงถึง 20 กิโล เพื่อให้ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ และเขาก็สามารถเอาชนะได้ตั้งแต่ยกแรก ด้วยเวลาเพียง 13 วินาทีเท่านั้น แมคเกรเกอร์ใช้เวลากว่า 2 ปีที่จะทำให้ผู้บริหารเห็นว่าเขามีดีพอจะเซ็นสัญญาด้วย นอกจากนี้ตลอดเวลาที่เขาได้ทำการแข่งขันเขาสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 2 รุ่น ได้แก่ เฟเธอร์เวท และ ไลฟ์เวท เป็นการคว้าเข็ดขัดรวดเดียวถึง 2 เส้น ซึ่งจ้องคนนักที่จะสามารถชกข้ามรุ่นและเป็นแชมป์ได้ทั้งหมด แต่ความฝันที่เป็นเบอร์ 1 คนเขายังไม่จบ เมื่อเขาต้องการจะข้ามชนิดกีฬาด้วยการประกาศลงนวมกับยอดมวยหมัด ทำให้แฟน ๆ ต่างหัวเราะในความบ้าครั้งนี้ แต่ผู้คนก็ต่างหวังว่านั่นจะเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดเมื่อนักสู้ผู้โด่งดังที่กำลังพุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดอยากจะวัดดวงกับราชามวยสากล

Conor McGregor คนทรามผู้ยิ่งใหญ่

ยอดนักมวยMMA ขอท้าดวลราชามวยสากล

     Conor McGregor ได้แสดงความบ้าของเขาออกมาให้ชาวโลกได้จดจำเมื่อ นักมวยMMA อยากจะท้าทายนักมวยมวยสากลที่เก่งที่สุดแห่งยุคอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนี่ยร์ เพื่อทำตามปนิธานที่ต้องการเป็นเบอร์หนึ่งแห่งวงการการต่อสู้ และเมื่อวันที่ทั้งคู่ต้องต่อสู้กันทำให้ UFC ต้องสั่นสะเทือนเนื่องจากการแข่งขันนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วโลก ในปี 2017 แม้เราต่างรู้ดีว่าไม่มีทางเลยที่ คอเนอร์ แมคเกรเกอร์ จะสามารถเอาชนะฟลอยด์ได้ เนื่องจากฟลอยด์เป็นมวยหมัดหนักที่แม้แต่ปล่อยหมัดเฉี่ยวคู่ต่อสู้ก็พร้อมจะลงไปนอนกองกับพื้น และแล้ววันแห่งประวัติศาสตร์ก็มาถึงเมื่อทั้งคู่ต่างเผชิญหน้ากัน และเป็นฟลอยด์ที่ยังคงรักษาระยะแต่แมคเกรเกอร์พยายามที่จะรุกไล่ด้วยความเร็วที่เขามี แต่แล้วทุกอย่างจบลงด้วยการเหวี่ยงหมัดกระแทกหน้าราวกับโดนค้อนทุบ ทำให้แมคเกรเกอร์เข่าทรุดลงกราบธรณี ในการแข่งขันครั้งนั้นเราต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าเขาไม่มีทางชนะได้ด้วยกติกามวยสากล แต่สิ่งที่ทำให้แมคเกรเกอร์ยิ่งใหญ่คือหัวใจที่ไม่เคยกลัวสิ่งใด แม้จะไม่สามารถเอาชนะได้แต่เขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือนักสู้ที่บ้าที่สุดในวงการและเป็นเบอร์หนึ่งแห่งการต่อสู้อย่างแท้จริง เหตุการณ์ในวันนั้นผู้คนต่างวิจารณ์กันว่า หากฟลอยด์สู้ในกติกาของ MMA อาจเป็นฟลอยด์เองที่เป็นฝ่ายแพ้อย่างราบคาบ

Conor McGregor คนทรามผู้ยิ่งใหญ่