มวยไทย การไหว้ครู ท่าสอดสร้อย
ท่าสอดสร้อย สำหรับท่าไหว้ครูในท่านี้จะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนจากท่านั่งเป็นท่ายืน เป็นการไหว้ครูต่อเนื่องมาจากท่าเทพนิมิตร ลักษณะของท่านั้นจะเป็นการยืนตัวตรง เริ่มต้นด้วยการยกขาข้างซ้ายงอตั้งฉากขึ้นมาจากพื้น แล้วใช้แขนซ้ายของตนเองนั้น ทำการยกขึ้นมาอยู่ในระดับเหนือหัวไหล่ขึ้นมาเล็กน้อย อยู่ระหว่างดวงตากับจมูก แล้วทำการขัดฉาก ให้ปลายมือทางด้านซ้ายหรือหมัดทางด้านซ้ายหันไปทางด้านขวา ยืดแขนออกไปให้สุดลำตัวจากนั้นใช้แขนขวา ทำการสอดเข้ามาตรงช่องระหว่างแขนและลำตัวของเรา เรียกว่า ท่าสอดสร้อย ลักษณะการทำนั้นจะทำทั้งซ้ายและขวา เป็นการทำ 3 ครั้ง สลับกันไป
ท่าสอดสร้อย เป็นการเช็คในส่วนของลำแข้งลำขาของตัวเราเอง การยืนด้วยขาข้างเดียวจะเป็นการเช็คในมุมต่าง ๆ ว่าเรานั้น ยืนได้มั่นคงบนผืนผ้าใบหรือไม่ การไหวหรือการขยับตัวของผืนผ้าใบบนเวทีมวยนั้น การโยกเพียงเล็กน้อย อาจจะทำให้การทรงตัวของเรานั้นไม่ดี การทดลองยืนด้วยขาข้างเดียวแบบนี้จะเป็นการประคองตัวเองได้เป็นอย่างดี การใช้แขนสอดไปมาเหมือนกับเป็นการยกลำตัวด้านบน เป็นการเช็คระดับสายตาของเราด้วยว่า เมื่อมีออกหมัดหรือออกอาวุธมาจากคู่ต่อสู้ เราสามารถจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน ปัดป้อง ป้องกันพร้อมกับสามารถสวนกลับได้ในทันที เทคนิคนี้ถือว่าเป็นเทคนิคพื้นฐานในการมองจังหวะของตัวเองและในการกำหนดระยะห่างของตัวเองอีกด้วย
สำหรับผู้ที่ฝึกพื้นฐานมวยมาเป็นอย่างดี แล้วกำลังไหว้ครูด้วย ท่าสอดสร้อย ถ้าเกิดว่ามีการไหวตัว มีการยืนที่ไม่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นขาซ้ายหรือขาขวาของเรานั่นหมายความว่าโอกาสที่เราจะชนะเกมนั้นค่อนข้างมีได้น้อย อาจจะต้องทำการเช็คพื้นเวทีมวยในส่วนอื่นเพิ่มเติมขึ้นไปทั้ง 4 มุมด้วย อาจจะเป็นในส่วนที่เรายืนเพียงจุดเดียวที่เวทีนั้นอาจจะไม่มีความเสถียร มีการยุบตัวหรือมีการโยกตัวมากจนเกินไป ให้เราจำจุดตรงนั้นไว้ให้ดี ถ้าเราอยู่ในจุดตรงนั้นเราก็เสียเปรียบแต่ถ้าคู่ต่อสู้อยู่ในจุดตรงนั้นเราก็ได้เปรียบ เราต้องพลิกเกมให้เหมาะกับตัวเรา การไหว้ครูในท่านี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการกะระยะห่าง เป็นไปได้อย่างมากว่าเวลาที่เราต่อสู้กันนั้น เราอาจจะต้องโดนกระทบในเรื่องของใบหน้าและดวงตา การเช็คสายตาอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ผิดพลาดเพียงแค่เล็กน้อยก็อาจจะทำให้เรากะจังหวะและกำหนดทิศทางในการออกอาวุธไม่แม่นยำ สำหรับนักมวยทุกคนควรจะฝึกในเรื่องของสายตาและการออกอาวุธอยู่เสมอ ยิ่งเรามีการซ้อมมากเท่าไหร่เรื่องของสายตาก็อาจจะมีการผิดพลาดผิดเพี้ยนได้ไปตามนั้น ขยันฝึกให้มาก การออกอาวุธและกะจังหวะจะได้ตรงเป้าหมายเสมอ