มวยไทย การไหว้ครู ท่าเทพนิมิตร 

มวยไทย การไหว้ครู ท่าเทพนิมิตร 

ท่าเทพนิมิตร การไหว้ครูในท่านี้ถือว่าเป็นการยืนเคารพตัวตรงให้กับครูบาอาจารย์และครูมวยทุกท่าน แต่ไม่ได้เป็นการยืนตัวตรงแต่เพียงอย่างเดียว ลักษณะท่าทางในการยืนจะเป็นการยืนสองขาชิดกันลำแข้งยืดตรง มือทั้งสองข้างนั้น ยกขึ้นประชิดอยู่ตรงหน้าอก ลักษณะคล้ายกับทหารที่เตรียมพร้อมจะอยู่ในท่าวิ่ง หรือเป็นลักษณะคล้ายกับการตั้งการ์ดแต่ การตั้งการ์ดจะอยู่ในระดับอก เราจะยืนในท่านี้ประมาณ 2-3 วินาที แล้วทำการหมุนไปทางด้านขวาเพื่อเป็นการเคารพกับสถานที่ มองตรงไปทางด้านหน้าไม่มีการวอกแวก สร้างสมาธิใช้สายตากวาดโดยรอบให้ครอบคลุมทั้งหมด เรียกว่าถ้าเรายืนหันไปทางมุมไหนก็ตามแต่เราจะต้องใช้สายตาของเรานั้นเห็นตั้งแต่มุมเสาทางด้านซ้ายมือสุดไปจนถึงมุมเสาทางด้านขวามือสุด แล้วใช้การสังเกตโดยรอบทั้งหมด ดูความแตกต่าง ดูสนามโดยรอบว่าไม่มีอะไรผิดสังเกต และใช้พื้นที่ทั้งหมดให้คุ้มค่า

ท่าเทพนิมิตร สำหรับการไหว้ครูในท่านี้จะเป็นการทำสมาธิของตัวเราเองในระยะสั้น ผู้ที่จะทำการแข่งขัน หรือผู้ที่อยู่บนเวทีตอนนี้จะมีสมาธิแน่วแน่ หายใจเข้าออกกำหนดลมหายใจเข้าออกเหมือนการนั่งสมาธิ หายใจเข้าให้ลึกที่สุดแล้วหายใจออก หลังจากนั้นก็ทำการหมุนวนขวาทำแบบนี้ทั้ง 4 ทิศ โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ไม่ว่าตอนนี้ คู่ต่อสู้จะทำการไหว้ครูหรือกำลังทำอะไรอยู่ก็ตามแต่ จิตของเราต้องสงบนิ่ง พร้อมที่จะต่อสู้ได้ทุกวินาที

ท่าเทพนิมิตร ดูเป็นการไหว้ครูที่ลักษณะง่าย ๆ แต่ต้องบอกว่าถึงแม้จะง่ายแต่ก็แฝงไปด้วยความมั่นคง ในจังหวะนี้เราจะใช้สายตาดูรอบสนามโดยทั่ว การที่มีชัยภูมิที่ดีหรือการที่เรานั้นสามารถใช้พื้นที่ทุกส่วนเป็นประโยชน์กับตัวเรา โอกาสที่เราจะชนะโอกาสที่เราจะได้เปรียบมีค่อนข้างมาก ความได้เปรียบหรือเสียเปรียบกันบนเวทีเพียงเล็กน้อยถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด อย่างเช่นการที่เราจะทาน้ำมันหรือใช้ครีมในการทาตัวของเราเอง ยังถือว่าเป็นข้อได้เปรียบในสนามด้วยเช่นกัน ความลื่นเพียงเล็กน้อยในจังหวะที่คู่ต่อสู้ได้ทำการออกอาวุธหรือปล่อยหมัดออกมา เจอกับความลื่นทำให้การสัมผัสน้อยทำให้ร่างกายเราลดแรงกระแทกได้เป็นจำนวนมาก การใช้พื้นที่บนเวทีก็เช่นเดียวกัน บางท่านั้นดูเหมือนจะไม่มีอะไรในการไหว้ครู แต่ถ้าเรานำทุกสิ่งทุกอย่างมาใช้ให้เกิดประโยชน์ มันก็เกิดประโยชน์ขึ้นกับตัวเราเองได้ไม่น้อย ในจังหวะท่าไหว้ครูที่ชื่อว่า ท่าเทพนิมิตร ถ้าเราได้ขึ้นไปอยู่บนเวทีแล้วได้ทำการไหว้ครูด้วยท่านี้ เราจะมองเห็นความต่างจากด้านล่างเวทีอย่างชัดเจน