มวยไทย การไหว้ครู ท่าหงส์เหิน
ท่าหงส์เหิน การไหว้ครูในท่านี้มีการเปรียบเปรยสำหรับหงส์ที่กำลังจะบินขึ้นจากน้ำ เราทุกคนคงรู้จักหงส์กันเป็นอย่างดี ลีลาท่าทางของหงส์ในการแสดงตัวหรือการขยับเขยื้อนแต่ละครั้งจะมีความสวยสดงดงาม ดูแล้วสง่างามเป็นอย่างมาก เพียงแค่หงส์นั้นกางปีกออก ก็มีความสวยงามจนทำให้สะกดสายตาคนดูได้มาโดยตลอด เราจึงเปรียบเปรย ท่าไหว้ครูในลักษณะนี้เรียกว่าท่าหงส์เหิน ท่าทางนั้นจะเป็นลักษณะในท่ายืน โดยไหว้ครูนั้น จะเริ่มต้นด้วยลักษณะการยืนตรง แล้วทำการยกขาขวาไปทางด้านหลัง ทำรูปลักษณะคล้ายกับเป็นหางหงส์ พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างยกขึ้นเหนือศีรษะ ทำรูปแขนลักษณะงอ 45 องศา โดยมือทั้งสองข้างนั้นอยู่แนบชิดกับศีรษะ กางข้อศอกออกพองาม แล้วทำการแอ่นตัว เหยียดตัวคล้ายกับหงส์นั้นกำลังขึ้นบิน
ลักษณะการไหว้ครูมวยด้วย ท่าหงส์เหิน เราจะได้ประโยชน์ในการยืดกล้ามเนื้อส่วนหลังและส่วนอก ยิ่งเราสามารถยกขาขวาไปทางด้านหลังได้สูงมากเท่าไหร่ก็จะเป็นการยืดกล้ามเนื้อช่วงหน้าขาได้เป็นอย่างดี และการยืดแขนขึ้นไปด้านบนจะเป็นการช่วยยืดแผ่นหลัง กล้ามเนื้อทุกส่วนของนักมวยเป็นส่วนที่สำคัญทั้งหมด เกมกีฬาชนิดนี้เป็นการใช้กล้ามเนื้อปะทะกับกล้ามเนื้อ ใครที่สามารถทนความเจ็บปวด ใครที่สามารถออกอาวุธได้อย่างแม่นยำเข้าจุดตายคู่ต่อสู้ ก็จะเป็นผู้ชนะ การไหว้ครูในท่านี้เป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าเราจะโดนคู่ต่อสู้นั้นทำร้ายหรือเตะเข้ามาในช่วงต้นขาหรือช่วงแผ่นหลัง การที่เรายืดกล้ามเนื้อออกกำลังกายไว้ตลอดเวลา เราจึงสามารถรับแรงกระแทกเหล่านี้ได้
ท่าหงส์เหิน สำหรับคนที่มีการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและนักกีฬาที่มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การไหว้ครูในท่านี้จะมีความสวยสดงดงามเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่เข้ามาอยู่ในวงการแวดวงมวย เข้ามาฝึกหัดเรื่องการชกมวยไทย จำเป็นที่ต้องศึกษาเรื่องราวของการไหว้ครูให้ละเอียดลึกซึ้ง ถึงแม้เราจะไม่มีประสบการณ์ในเรื่องของการชกมวยมามาก รายการถ่ายทอดหรือการบอกกล่าวถึงพิธีการและการไหว้ครูเป็นเรื่องที่สำคัญ เราสามารถนำท่าทางแห่งการไหว้ครูเหล่านี้ มารวมและดัดแปลงเป็นการออกกำลังกายอีกชนิดหนึ่งได้ไม่ยาก และพูดได้ว่าไหว้ครูเป็นการออกกำลังกายครบทุกสัดส่วนโดยแท้ บางคนตั้งใจเข้ามาเรียนวิชามวยเพื่อการศึกษาเรื่องการไหว้ครูโดยตรง เพราะเมื่อคำนวณจากสิ่งที่เห็นและได้ทดสอบด้วยตนเองจึงพบว่าการไหว้ครูเปรียบเสมือนการออกกำลังกายที่ดีที่สุด ครบทุกสัดส่วนมีการกระตุ้นกล้ามเนื้อทุกส่วนตลอดเวลา เรียนมวยไม่จำเป็นจะต้องเรียนเพื่อเอาชนะแต่เรียนเพื่อการออกกำลังกายได้เช่นกัน