มวยไทยคือมวยที่สามารถออกอาวุธในการต่อสู้ได้ในทุกส่วนของร่างกายจนได้รับฉายาว่าเป็นประเภทการต่อสู้ในท่ายืนที่น่ากลัวที่สุดในโลก โดยเฉพาะศอก ศอกคืออาวุธสั้นในระยะประชิดที่นักมวยไทยให้ความนิยม แต่ทว่า กว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมายังไม่มีใครที่สามารถใช้งานศอกได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับ “ยอดขุนพล ศิษย์ไตรภูมิ” เจ้าของฉายา “พรานศอกร้อยเข็ม” นักมวยที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นยอดมวยมวยศอกที่ดีที่สุดในโลก สามารถใช้ศอกได้ทุกรูปแบบอีกทั้งดูแล้วลื่นไหลมากที่สุดคนหนึ่งอีกด้วย แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานกว่า 30 ปี ก็ยังไม่มีใครที่จะใช้ศอกได้ดีเท่าตำนานรายนี้อีก แม้กระทั่งไทรโยคกับเจ้าของฉายาขุนศอกไร้น้ำใจในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถออกอาวุธศอกได้เทียบเท่าตำนานขุนศอกเลยแม้แต่น้อย
กว่าจะเป็น นักมวยไทย ตำนานศอกร้อยเข็ม
ยอดขุนพล ศิษย์ไตรภูมิ เป็นนักชกที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด และมีความสนใจในอาชีพชกมวยจึงเข้ามาเดินทางบนสายนี้อย่างเต็มตัว ด้วยรูปร่างที่สูงโย่งแต่ไม่หนาน ทำให้ไดเปรียบคู่ต่อสู้ที่ระยะชก เป็นนักมวยไทยที่ครบเครื่องเรื่องการออกอาวุธ แต่ที่ดูเหมือนจะทำได้ดีที่สุดก็คือศอกและหมัด ตลอดอายุการชกเป็นที่รู้กันดีว่าไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เขามักจะกรีดเลือดจากคู่ต่อสู้ได้เสมอ นั่นก็ด้วยศอกที่เป็นอาวุธลับของเขา โดยปกติแล้วศอกจะเป็นอาวุธที่ใช้คลุกวงในเพื่อชิงเหลี่ยม แต่ทว่าตำนานศอกรายนี้ สามารถใช้มันเป็นอาวุธโจมตีจากวงนอกได้อย่างอิสระ และที่สำคัญเป็นนักมวยคนหนึ่งเมื่อตอนใครเข้ามุมแล้วคู่ต่อสู้จะหนีออกได้ยากมากที่สุด จนกระทั่งในปี 2538 เข้าได้ตัดสินใจแขวนนวมในวัยเพียง 27 ปี ซึ่งนักมวยในวัยนี้ปัจจุบันมีให้เห็นกันมากมายเพราะยังสามารถขึ้นชกได้อีกนาน และในรายที่ดูแลตัวเองดีก็สามารถชกได้ถึงอายุ 40 ปีเลยก็มี นั่นก็เพราะปัจจุบันวิทยาศาสตร์การกีฬาได้รุดหน้าไปไกลแล้วทำให้นักมวยสามารถใช้ร่างกายได้มากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก จึงทำให้เขาต้องออกจากวงการตั้งแต่อายุยังน้อยนั่นจึงเป็นจุดสิ้นสุดของพรานศอกร้อยเข็ม หลังจากที่เลิกชกได้ไม่นานเข้าก็ได้ย้ายถิ่นฐานจากบ้านเกิดมาทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับเพื่อนรักของเขา ก่อนหน้านั่นเขาใช้เวลาเพื่อท่องเที่ยวกินดื่มนานถึง 6 ปี ก่อนจะหางานทำอย่างจริงจัง
ตำนานศอกร้อยเข็ม ตำนานนักมวยไทยที่ยังมีลมหายใจ
แม้ว่าปัจจุบันชีวิตของ ยอดขุนพล ศิษย์ไตรภูมิ จะหักเหออกจากเส้นทางนักมวยไทยอาชีพไปไกล แต่เรื่องราวการต่อสู้บนเวทีผืนผ้าใบของเขายังคงกลายเป็นตำนานที่หาตัวจับได้ยาก จนบ้างครั้งเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าอีกกี่ปีวงการมวยไทยจึงจะเกิดนักชกที่ใช้ศอกได้อย่างสวยงามเช่นนี้อีก จริงอยู่ที่การต่อสู้ของไทยประกอบไปด้วยอาวุธหลายประเภท หมัด เท้า เข่า ศอก ทั้งหมดคือเครื่องต่อสู้ในร่างกายที่เราใช้เพื่อตำร้ายคู่ต่อสู้ แต่ศอกก็ยังคงเป็นอาวุธที่น่ากลัวที่สุดอยู่ดี เพราะทุกครั้งที่ใช้ มันสามารถรีดเลือดและสร้างบาดแผลอุกฉกรรจ์ได้มากมาย แม้ว่าเข้าจะประสบความสำเร็จอย่างมากใยอดีต แต่บันปลายชีวิตก็ได้ทิ้งไว้เป็นบทเรียนให้กับคนรุ่นหลังได้เป็นอย่างดีว่า ยามมีควรเก็บเงินเอาไว้ เพราะอาชีพนักมวยนั้นสั้น หากใช้เงินอย่างประมาทต่อให้ประสบความสำเร็จมากมายเพียงใดก็หมดตัวอยู่ดี จนมีเพียงก็แต่ชื่อเสียงและผลงานเท่านั้นที่จะยังคงอยู่ให้ได้จดจำ ปัจจุบัน ยอดขุนพล ได้เป็นเทรนเนอร์การชกมวยอยู่ที่ค่ายมวยเพชรรุ่งเรือง หากท่านมีความสนใจอยากเรียนมวยหรืออยากศึกษาเทคนิคการใช้ศอกจากยอดตำนานศอกแห่งเมืองไทย จึงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงที่จะเดินหน้าเข้าไปของการเรียนรู้จากเขา เพราะการได้เรียนกับผู้รู้หนึ่งวัน ย่อมต้องดีกว่าการฝึกฝนเองหนึ่งพันวัน อีกทั้งยอดขุนพล ยังเป็นนักมวยที่ได้รับการยกย่องมาตลอด 30 ปี เขาย่อมต้องมีดีมากพอที่จะเป็นอาจารย์ของคุณอย่างแน่นอน