ประวัติศาสตร์มวยไทย กับการเปลี่ยนไปของโลก

ประวัติศาสตร์มวยไทย กับการเปลี่ยนไปของโลก

ประวัติศาสตร์มวยไทย กับการเปลี่ยนไปของโลก

     หากเรากำลังเดินทางอยู่บนเส้นทางที่ไม่ถูกต้องแล้ต้องการที่จะกลับตัวกลับใจ แน่นอนว่าเราสามารถย้อนหลังกลับไปได้ แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจเอากลับมาหรือย้อนกลับไว้ได้นั่นก็คือ เวลา เพราะทุกวินาทีเวลาจะเดินไปข้างหน้าอย่างไม่มีวันพักและไม่หวนคืน ดั่งโลกที่หมุนรอบตัวเองอยู่ตลอดเวลาและไม่มีวันที่หยุดพัฒนาไปกับการเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ และต่อเนื่อง หลายสิ่งบนโลกที่ได้ถือกำเนิดมาเป็นเวลานา และได้ถูกลบเลื่อนหายไปเหลือไว้เพียงชื่อเสียงให้เล่าขาน เป็นตำนานที่ได้รับการบันทึก และหลายสิ่งที่เป็นตำนานก็ยังคงได้รับการสืบต่อจากรุ่นสู่รับ แต่หัวใจหลักไม่ใช่ว่าการกำเนิดนั่นสมบูรณ์เพียงใดจึงทำให้สิ่งในส่งหนึ่งมีอยู่อย่างยาวนาน แต่การปรับตัวและปรับปรุงต่างหาก ที่ทำให้สิ่ง ๆ นั้นยังคงอยู่ต่อไป เหมือนดั่งการต่อสู่ของไทยที่กลายเป็นตำนาน สู่การเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น และถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์มวยไทย เพื่อคงคุณค่าไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาตราบนานเท่านาน

ประวัติศาสตร์มวยไทย สู่ความยิ่งใหญ่ในเวทีโลก

     เป็นที่รู้กันดีว่าประไทยในอดีตนั้นเป็นเพียงประเทศการปกครองเล็ก ๆ ในเอเชียตอนล่าง และยังถูกรายล้อมไปด้วยนานาประเทศมากมายที่ในยุคนั้นยังเป็นยุคของการล่าอาณานิคมอยู่ ทำให้เกิดการแย่งชิงและเกิดสงครามรบพุ่งกันอยู่เป็นประจำ แต่ว่า วิวัฒนาการของดินแดนสุวรรณภูมนั้นยังไม่เท่ากับของชาติตะวันตก ทำให้อาวุธหลักที่ใช้กันก็คือดาบและธนู โดยอาศัยจำนวนกำลังเป็นที่ตั่งเข้าจู่โจม ด้วยกำลังที่ของไทยที่น้อยกว่าเป็นเท่าตัวในขณะนั้น ทำให้การรบพุ่งจึงเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะ คนไทยในอดีตจึงคิดค้นวิธีการต่อสู้ที่จะทำให้ตนเองได้เปรียบในสนามรบ โดยหลักก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู่ จากการอาศัยเพียงอาวุธเพียงอย่างเดียวก็เปลี่ยนทุกส่วนของร่างกายให้กลายเป็นอาวุธ และแม้ว่าดาบจะหลุดมือ แต่ก็ยังสามารถต่อสู้ต่อได้ด้วยแม้ไม้มวยไทย มวยไทย คือ หนึ่งในศาสตร์การต่อสู้ที่เปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นอาวุธ ทั้ง หมัด เท้า เข่า ศอก เป็นต้น ทุกส่วนของร่างกายถูกคิดค้นมาให้สามารถทำอันตรายคู่ต่อสู้ได้ เพราะในสงครามไม่มีกฎกติกาใด ๆ มีเพียงการทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอดเท่านั้น มวยไทยจึงเป็นอาวุธที่เน้นการทำลายอย่างรวดเร็วและหยุดคู่ต่อให้ไวที่สุด เพราะกำลังรบของไทยในขณะนั้นไม่ได้สู้กันเพียง 1 ต่อ 1 แต่เป็น 1 ต่อ 2 เสียเป็นส่วนใหญ่ จนต่อมาได้ถือกำเนิดบิดามวยไทย เกิดขึ้นใน ประวัติศาสตร์มวยไทย

ประวัติศาสตร์มวยไทย กับการเปลี่ยนไปของโลก

บิดามวยไทย นายขนมต้ม

     นายขนมต้ม เมื่อกล่าวขานชื่อนี้กับคนไทยไม่มีใครไม่รู้จักบิดามวยไทยคนนี้ แม้ว่าความจริงแล้วเขาจะไม่ใช้ผู้ที่ให้กำเนิดมวยไทย แต่ในยุคนั้นก็เป็นคนหนึ่งที่เชียวชาญในการต่อสู้ด้วยมือเปล่าจนเป็นที่ยอมรับจากศัตรู และถูกบันทึกชื่อไว้ในประวัตศาสตร์มวยไทยสืบมา โดย นายขนมต้มนั้นได้ถูกกวาดต้อนโดยกองทัพพม่า แต่ทว่าแม่ทัพพม่าที่ชื่นชอบในการต่อสู้ จึงได้ประกาศให้นักมวยไทยที่อยู่ในค่ายกักกันออกมาสู้เพื่อแลกกับอิสระ แต่ทว่าก็ไม่มีนักมวยไทยคนไหนสามารถเอาชนะนักมวยพม่าได้เลย ด้วยร่างกายที่ทรุดโทรมประกอบกับความหิวโหยที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้นักมวยไทยหมดเรี่ยวแรงที่จะสู้ และแม้ว่าพม่าจะมีอาณาเขตติดกับไทย และได้รับอิทธิผลร่วมในศิลปะการต่อสู้ แต่ทว่า เชิงมวยในการต่อสู้นั้นก็ยังคงแตกต่างกันอยู่มาก ต่อมา นายขนมต้มได้ขานอาสาเข้าร่วมการประลองนั้น ท่ามกลางเหล่าขุนนางที่ตามทัพพม่ามาบุกอยุธยาในสมัย การต่อสู้จึงได้เริ่มขึ้น แต่ทว่าภายในเวลาอันเร็ว นายขนมต้มสามารถเอาชนะนักมวยพม่าได้ ทำให้เหล่าแม่ทัพนายกองงุนงง และให้นักมวยคนอื่นเข้าสู้แทน โดยถามความสมัครใจของนายขนมต้มว่ายินดีหรือไม่ ด้วยความคับแค้นใจที่เกลียดข้าศึกเข้าไส้เขาจึงใช้โอกาสนั้นเพื่อต่อสู้อย่างสุดกำลัง จนในที่สุดก็สามารถเอาชนะนักสู้ได้ทั้งหมด จึงได้รับคำชื่นชมจากแม่ทัพพม่าเป็นอย่างมาก และได้รับการปล่อยต่อตามที่ให้สัญญา ต่อมาคนไทยจึงยกตำนานแห่งความภาคภูมิใจ บิดาแห่งมวยไทย คือ นายขนมต้ม ตราบจนทุกวันนี้