เครื่องรางของขลัง มวยไทย เพิ่มความมั่นใจทุกสังเวียน 

เครื่องรางของขลัง มวยไทย

ประเจียด มงคลถัก ผ้ายันต์ พิรอด ชื่อเหล่านี้ไม่ทราบว่าทุกคนเคยได้ยินกันมาบ้างหรือเปล่า แต่สำหรับใครเป็นสายมวยไทย ก็คงจะได้ยินชื่อพวกนี้จนคุ้นหู เพราะคือเครื่องรางของขลัง มวยไทย ที่อยู่กับนักมวยมาตั้งแต่ในสมัยอดีต เครื่องรางของขลังก็คือของเสริมความมั่นใจในการชกไม่มีมากขึ้นทุกครั้ง สร้างความฮึกเหิม และนำมาสู่ชัยชนะในที่สุด 

นอกจากเครื่องรางของขลังแล้วในสนามมวยก็ยังมีพิธีไหว้ครู ที่มีท่วงท่าและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ใช้ข่มขวัญคู่ต่อสู้และเรียกความมั่นใจ ให้กับนักชกได้อีกวิธีหนึ่ง ย้อนไปในสมัยอดีต มวยไทยนั้นคือศิลปะการต่อสู้ ที่ใช้รบกับข้าศึก และด้วยการใช้มือเปล่าจึงเสียเปรียบกับข้าศึกที่มีอาวุธ ดังนั้นการมีเครื่องรางของขลังหรือวิชาอาคมเข้ามานั้น เป็นตัวเพิ่มความมั่นใจในการรบ และสามารถป้องกันร่างกายจากอาวุธที่จะเข้ามาทำร้าย และเครื่องรางของขลังก็ได้สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น 

แม้กระทั่งในยุคปัจจุบันนี้มวยไทยจะกลายเป็นกีฬา แต่เครื่องรางของขลังก็ยังอยู่คู่กับนักมวยและสนามมวยมาจนถึงปัจจุบัน และนี่คือสิ่งสำคัญที่นักมวยทุกคนจะขาดไม่ได้ และเป็นส่วนสำคัญในเครื่องแต่งกายของนักมวย ซึ่งเครื่องรางของขลัง มวยไทยจะมีอะไรกันบ้าง ทุกคนคงอยากรู้กันแล้ว เพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลา ไปติดตามรับชมกันได้เลย 

เครื่องรางของขลัง มวยไทย

5 รายชื่อ เครื่องรางของขลัง มวยไทย สำหรับนักมวยไทย

ถ้าพูดถึงสิ่งที่อยู่คู่กับนักมวย นั่นก็คือเครื่องรางของขลัง มวยไทย เนื่องจากว่าในสมัยอดีตมวยไทยนั้นไม่ใช่กีฬา แต่เพื่อใช้รบและต่อสู้กับศัตรู และเป็นศิลปะและศาสตร์การต่อสู้ชั้นสูง จนมาถึงปัจจุบันที่มวยไทยได้กลายเป็นกีฬา และมีการชกบนสนามมวยกันอย่างแพร่หลาย แต่สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของนักชก จากเครื่องรางของขลัง และพิธีไหว้ครูก็ยังอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเครื่องรางของขลังนักมวยนั้นก็มีมากมาย แต่เราจะยกออกมาเป็น 5 รายชื่อโดดเด่นให้กับทุกคนได้ทราบกันดังต่อไปนี้ 

  1. มงคลถัก คือเครื่องผูกศีรษะสำหรับนักมวยก่อนขึ้นชก ซึ่งทำมาจากด้ายหรือสายสิญจน์ ที่ได้ผ่านพิธีกรรมจากครูบาอาจารย์ มีความหมายว่าเป็นสิริมงคล ช่วยคุ้มครองจากอันตราย
  2. ประเจียด ของขลังอีกประเภทหนึ่งที่ทำมาจากผ้าดิบสีขาว ซึ่งนักมวยจะนำไปผูกติดกับต้นแขนทั้งสองข้าง โดยมีความเชื่อที่ว่าจะทำให้แคล้วคลาดภัยอันตรายจากคู่ชก 
  3. ผ้ายันต์ เป็นอีกหนึ่งเครื่องรางที่มีมาทุกยุคทุกสมัย เมื่อในสมัยอดีต จะทำเป็นเสื้อยันต์เพื่อให้นักรบสวมใส่ และมีการลงอักขระโบราณพร้อมกับคาถา เพื่อป้องกันศาสตราวุธต่าง ๆ 
  4. พิสมร เป็นเครื่องรางที่ทำมาจากโลหะให้นักมวยห้อยคอเพื่อบูชา โดยมีความเชื่อว่าจะสามารถป้องกันจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ได้ทั้งหมด นักมวยหลายคนจึงนิยมห้อยคอและติดตัวไว้เสมอ
  5. พิรอด คือเครื่องรางที่นำหวายมาถัก โดยมีพุทธคุณทางด้านอยู่ยงคงกระพัน ป้องกันภัยจากอาวุธได้ทุกชนิด และอันตรายได้ทุกรูปแบบ โดยใช้สวมต้นแขนหรือนิ้ว ถือว่าเป็นของหายากอีกประเภทหนึ่ง 

เครื่องรางของขลังทั้งหมดนี้ ถูกทำขึ้นมาจากเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งได้ลงคาถาอาคมเอาไว้ทั้งหมด ซึ่งบางอย่างนั้นก็ได้เลือนหายไป แต่ก็มีบางอย่างยังอยู่คู่กับมวยไทยและสนามมวย อย่างพิธีไหว้ครู ประเจียดหรือมงคลถัก ที่ยังมีให้เห็นอยู่ในทุกวันนี้ 

พิธีการไหว้ครู แสดงถึงความเคารพและกตัญญู

พิธีการไหว้ครูของนักมวยไทยก่อนขึ้นชกนั้น เป็นพิธีที่ได้ทำมาตั้งแต่ในยุคโบราณ เพื่อแสดงความกตัญญูรู้คุณ และความเคารพต่อครูมวยที่ได้ประสิทธิ์ประสาทความรู้ให้ เพราะในสมัยก่อนมวยไทยนั้นถือว่าเป็นศาสตร์การต่อสู้ชั้นสูง ก่อนการประลองบนสนามมวยจึงต้องมีพิธีการไหว้ครูก่อนทุกครั้ง 

เพื่อส่งผลในด้านดีต่อจิตใจของนักมวย ให้มีความฮึกเหิมและเสริมให้มีกำลังใจมากขึ้น เหมือนกับเครื่องรางของขลัง มวยไทย อย่างเช่นประเจียดหรือมงคลถัก ทำให้ในการชกสามารถเอาชนะผู้ต่อสู้ไปได้ สำหรับสาเหตุที่มีการไหว้ครูก่อนการชกมวยทุกครั้งนั้น ก็มีหลายสาเหตุด้วยกันอาทิเช่น 

  • เป็นวิธีการอบอุ่นร่างกาย ที่ดีที่สุดสำหรับนักชก 
  • ใช้เพื่อปลุกขวัญกำลังใจ ในการต่อสู้ให้กับตัวเอง 
  • ท่าทางที่เข้มแข็งดุดัน สามารถใช้ข่มขวัญคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี
  • ปลูกฝังจิตใจที่ดีให้กับนักมวย รู้คุณของครูบาอาจารย์
  • เผยแพร่ของวัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ ให้กับทุกคนได้เห็น 

ซึ่งในพิธีการไหว้ครูนั้นก็จะมีท่วงท่าที่แตกต่างกันไป ทั้งอ่อนช้อยงดงาม และเข้มแข็งดุดัน ที่สำคัญยังเป็นศิลปะวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับมวยไทยของเรา ที่ต้องช่วยกันรักษาเอาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป

ประวัติความเป็นมาของสนามมวยชื่อดังทั้งสองแห่ง 

หลังจากได้มีการปรับเปลี่ยนให้มวยไทยกลายมาเป็นกีฬา ทำให้ได้รับความนิยมแพร่หลายอย่างรวดเร็ว และมีสนามมวยเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ถ้าจะให้พูดถึงสนามมวยที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไทย ก็คงหนีไม่พ้นสนามมวยราชดำเนิน และสนามมวยลุมพินี 2 แห่งนี้เท่านั้น เป็นสนามมวยที่ได้มาตรฐาน และมีการชกมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ และทั้งสองสนามนี้ก็ได้สร้างนักมวย ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกมากมายหลากหลายคน 

ประวัติของสนามมวยราชดำเนิน หรือชื่อในอดีตที่เรียกว่าสนามมวยแห่งการพนัน ถูกสร้างขึ้นในสมัยจอมพลปพิบูลสงคราม ที่เป็นผู้ริเริ่มอยากให้มีสนามมวยที่เป็นมาตรฐาน โดยจะสร้างขึ้นโดยใช้งบประมาณ จากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ส่วนพระองค์ เปิดสังเวียนวันแรกในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ 2488  และในปัจจุบัน บริษัทเวทีราชดำเนิน จำกัด ได้เช่าดำเนินการต่อ ซึ่งมีคำกล่าวในอดีตว่าถ้าหากคุณชนะได้แชมป์จากเวทีราชดำเนินนี้ ก็เหมือนได้แชมป์ของประเทศไทย เพราะเป็นวิธีใหญ่และมีนักชกชื่อดังและเก่งกาจมากมายเข้ามาร่วมต่อสู้ชิงชัยในสนามนี้ตลอดเวลา โดยเวทีราชดำเนิน จัดการแข่งขันชกมวย ทุกวันจันทร์ วันพุธ วันพฤหัสบดี ในเวลา 18:00 น ถึง 21.00 และจัดการแข่งขันในวันอาทิตย์ เวลา 17.00 ถึง 21.00 น 

ประวัติของสนามมวยลุมพินี ถือว่าเป็นสนามมวยที่เป็นมาตรฐานอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย และมีขนาดที่ใหญ่เทียบเท่ากับสนามมวยราชดำเนิน ถูกจัดสร้างขึ้นในปีพ.ศ 2499 โดยพลตรี ประภาส จารุเสถียร เปิดการชกครั้งแรกในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ 2499 เวทีลุมพินีนี้มีประวัติยาวนาน และมีการจัดแข่งขันมวยไทยรวมถึงมวยสากล อยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน ชื่อเสียงของสนามแห่งนี้โด่งดังไม่แพ้ใคร สำหรับนักชกคนไหนที่ไม่ได้แชมป์เวทีนี้ ก็จะมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีการจัดแข่งขันชกมวย ทุกวันอาคารและวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา18:00 น ถึง 23:00 น  และในวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 16:00 น ถึง 22:00 น

สำหรับใครที่มีโอกาสก็อยากให้ทุกคนไปแวะชม สนามมวยที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยสักครั้ง เหมือนกับชาวต่างชาติที่นิยม มาท่องเที่ยวดูการชกมวยเป็นประจำ เพราะคุณจะได้เห็นทางพิธีการไหว้ครู เครื่องรางของขลัง มวยไทย ไม่ว่าจะเป็นประเจียด มงคลถัก และเครื่องรางของขลัง ต่าง ๆ เป็นต้นรวมไปถึงการต่อสู้ที่ดุเดือดตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลา

MUAYTHAISHUTTER ครบครันข่าวในวงการมวยไทยและมวยสากล

SPORTYRELAX เว็บไซต์รวมกีฬา ข่าวสารสาระเกี่ยวกับ กีฬารอบโลก