ชื่อของ โจ ณัฐวุฒิ ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก หลังจากได้เจอกับ ตะวันฉาย พีเคแสนชัยมวยไทยยิม ในศึกมวยระดับโลกอย่าง One Championship ณ สนามมวยเวทีลุมพินี แม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ก็สู้ได้อย่างสูสี มีโอกาสเป็นผู้ชนะได้เหมือนกัน แต่สุดท้ายสู้ความหนักหน่วงและจะแจ้งของ ตะวันฉาย ไม่ไหว แพ้คะแนนไปแบบหวุดหวิด หลังจบไฟต์ดังกล่าว แม้แต่ ตะวันฉาย ยังออกมาชม โจ ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก เป็นมวยแทนที่แข็งโป๊ก หลายคนอยากรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน โจ ณัฐวุฒิ คือใคร เราไปเปิดประวัติของนักมวยไทยรายนี้กัน
โจ ณัฐวุฒิ เคยเป็นพนักงานโรงแรม
โจ ณัฐวุฒิ ประวัติ เคยชกมวยไทยในประเทศไทยมาก่อน ในปี 2551 ใช้ชื่อมวยไทยว่า ธนะศักดิ์ ส.บุญเลี้ยง แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เป็นเพียงมวยที่ชกตามเวทีภูธร ไม่มีโอกาสชกที่เวทีใหญ่อย่าง เวทีราชดำเนิน และ สนามมวยเวทีลุมพินี ค่าตัวที่เคยได้สูงสุดเพียงแค่ 7,000 บาทเท่านั้น
หลังไม่ประสบความสำเร็จในการชกมวย โจ ณัฐวุฒิ ได้เปลี่ยนอาชีพเป็นพนักงานโรงแรม ในจังหวัดสุราษฎ์ธานี ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ โดยได้เงินมากกว่าการชกมวยอยู่หลายเท่าตัว
เดินหน้า ล่าฝันที่ อเมริกา
โจ ณัฐวุฒิ ทำงานเป็นพนักงานโรงแรมอยู่ประมาณ 5 ปี เข้าสู่ปี 2566 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต โจถูกคนรู้จักชวนไปทำงานที่อเมริกา แม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่เพื่อความก้าวหน้าของชีวิต เขาจึงเลือกเดินทางไปทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กที่โรงแรมแห่งหนึ่งในรัฐโคโลราโด้
และหลังจากนั้นไม่นาน เส้นทางของนักมวย ก็เดินกลับมาเรียกหา โจ อีกครั้ง โดยเขาได้ไปสมัครเป็นเทรนเนอร์มวยไทยที่แอตแลนต้า ซึ่งเป็นค่ายของ ขุนพล เดชคำภู อดีตนักมวยไทยชื่อดัง แล้วได้มีโอกาสขึ้นชกใน Lion Fight รายการมวยไทยมีชื่อของอเมริกา ซึ่งตอนนั้น โจ ได้ขึ้นชกในฐานะมวยแทน มีเวลาเตรียมตัวเพียงแค่ 10 วัน แต่ก็เพียงพอต่อการเอาชนะ คอสโม อเล็กซานเดร นักมวยจากบราซิล
คว้าแชมป์ 2 รุ่น ที่อเมริกา
โจ ณัฐวุฒิ เปิดตัวไฟต์แรกได้อย่างยอดเยี่ยม ต่อเนื่องด้วยการชนะรวดอีก 3 ไฟต์ ทำให้ได้สิทธิขึ้นไปชิงแชมป์รุ่น 154 ปอนด์ แล้วสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ พร้อมกับป้องกันตำแหน่งได้ถึง 6 ไฟต์ จากนั้นปล่อยน้ำหนักขึ้นไปชกในรุ่น 160 ปอนด์ แล้วก็สามารถคว้าแชมป์มาครองได้อีกเส้น
ด้วยการชกเพียงแค่ 10 ไฟต์ เปลี่ยนชีวิตของ โจ ณัฐวุฒิ จากพนักงานโรงแรม สู่หนึ่งในนักมวยที่มีชื่อเสียงที่สุดในอเมริกาในขณะนั้น โดยจาก 10 ไฟต์ที่ขึ้นชกนั้น โจ เข้าวินถึง 9 ไฟต์ แพ้เพียงแค่ไฟต์เดียว และนั่นเป็นการพ่ายให้ รีเกียน เออร์เซล เจ้าของแชมป์โลก One Championship มวยไทย รุ่นไลต์เวต (155-170 ปอนด์)
เซ็นสัญญากับ ONE
หลังผลงานเข้าตา โจ ณัฐวุฒิ ได้เซ็นสัญญากับ One Championship เป็นตัวไฟต์ในเดือนเมษายน 2018 ดวลกับยอดมวยอย่าง จอร์โจ้ เปรโตเซียน และเป็นฝ่ายแพ้คะแนน หลังจากนั้นขึ้นชกอีก 8 ไฟต์ เก็บชัย 5 แพ้ 3 ก่อนจะได้ขึ้นเป็นมวยแทนของ ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน ที่ได้รับบาดเจ็บ ในการรับมือ ตะวันฉาย เจ้าของแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต โดยเป็นการชกในกติกาคิ๊กบ็อกซิ่ง และ โจ เป็นฝ่ายแพ้ไป
โจ พบ ลุค ลิสซีย์
หลังจากพ่ายให้กับ ตะวันฉาย ในศึก ONE Fight Night 15 (7 ตุลาคม 2023) อีก 3 เดือนต่อมา ในวันที่ 9 ธันวาคม 2023 โจ ณัฐวุฒิ ได้ขึ้นชกในศึก ONE Fight Night 17 ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี กับนักมวยจากอเมริกา ลุค ลิสซีย์ ซึ่งการชกทั้ง 3 ยกเป็นไปอย่างสูสี ก่อนจะเป็น โจ ที่เอาชนะคะแนน ลุค ลิสซีย์ ไปทั้ง 3 เสียง ซึ่งหลังการชก โจ ออกมาเปิดเผยว่า เขาเจ็บขาขวาตั้งแต่ยกแรก จนถึงขั้นใช้งานไม่ได้ แต่ก็กัดฟันสู้จนเอาชนะได้ในท้ายที่สุด